“หมู่บ้านคีรีวง” แหล่งโอโซน..ชั้นดี จ.นครศรีธรรมราช

นครศรีธรรมราชไม่ใช่ทางผ่าน คุณต้องตั้งใจมา!!

เรานั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินนครศรีธรรมราช และเดินทางต่อไปคีรีวงด้วยรถของครอบครัวครับ(ผู้เขียนเป็นเด็กเมืองคอน) ดังนั้นรายละเอียดแบบเจาะลึกเรื่องค่าใช้จ่ายอาจจะมีไม่มากนัก และเราไปเช้า-เย็นกลับ ทริปนี้ไม่ค้างแค่อยากแวะไปเที่ยวคีรีวงเท่านั้น

จากสนามบินไปไม่ยากเลย มีรถเหมาไปส่ง หรือใครอยากชิลล์ก็นั่งรถเข้าเมืองมีสองแถววิ่งไปคีรีวงเขาเล่าว่าราคารถสองแถวคนละ 25 บาท ส่วนราคาเหมาก็ไม่เกิน 300 บาท(อยู่กับความสามารถส่วนบุคคล)

หากอยากขับรถไปเองก็มีรถให้เช่า ตั้งค่า Google Map ได้เลย วิ่งเส้น 4103 ไปเรื่อย ๆ แล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้น 4016 ขับตามถนนมาเรื่อย ๆ ตลอดเส้นทางมีป้ายบอก เราใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที

ปัจจุบัน คีรีวง ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีอากาศดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขาและสายน้ำ เป็นชุมชนที่ไม่ไหญ่มากนัก ดำรงชีวิตกันแบบชาวบ้านที่แสนจะธรรมดา แต่คีรีวงดังเพราะกระแสของโลกออนไลน์ที่ทำให้หลาย ๆ คนเข้าถึงและอยากเดินทางไปสัมผัสยังหมู่บ้านแห่งนี้กัน

เอ้า!! ถึงแล้ว ^______^

ไฮไลท์แรกเป็นจุดยอดนิยมของช่างภาพ “สะพานบ้านคีรีวง” หากมาเที่ยวทุกคนต้องมีภาพนี้กลับไป ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงคีรีวง

ภาพเบื้องหน้าคือสีเขียวขจีของป่าที่เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหลวง โอ๊ยฟินนนน…………..

อากาศเย็นสบายแบบไม่ต้องพึ่งแอร์  แหม่ๆๆ……. ก็ตั้งอยู่กลางเทือกเขาอากาศดีก็ถูกแล้ว  ชาวบ้านที่นี่น่ารักใจดี คนนครศรีไม่โหดอย่างที่คิด

วิวสวย ๆ ทั้งนั้นเลยยยยยยยย และโฮมสเตย์ก็มีให้เห็นอยู่ตลอดทางคู่ขนานไปกลับลำธารที่ไหลอย่างอ้อยอิงมาจากยอดเขา หากมีเวลาหลาย ๆ วันลองแวะนอนกับชาวกันได้ครับ

นอกจากเราจะได้เรียนรู้วิถีวิตของชาวใต้แล้วคุณยังได้ลิ้มลองรสชาติของคนคอนอาหารปักษ์ใต้แท้ ๆ หนักทั้งเครื่องและพริก สำหรับคนต่างถิ่นถือเป็นอีกหนึ่งกำไรชีวีตเลยนะ

“สะพานแขวน” อีกไฮไลท์มาให้สุดก็ต้องแวะไปเก็บภาพที่บริเวณนี้ สะพานแขวนดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่เกือบสุดทางชุมชน

มีร้านจักรยานหากผมอ่านป้ายไม่ผิดค่าเช่าน่าจะอยู่ที่วันละ 50 บาท

รีวิวนี้อาจจะดูกระชับไปหน่อย เพราะเราเองก็ต้องทำเวลา ก็เลยต้องวิ่งไล่เก็บภาพกันแบบฝุ่นตลบ ยังไงพบกันใหม่ได้ในทริปหน้า

บ๊ายบาย สวัสดีครับ “คีรีวง”

สนับสนุนเนื้อหา