Patara Fine Thai Cuisine ภัตตาคารแห่งแรกในเมืองไทย

“ร้าน ภัทรา” ที่ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 19 สุขุมวิท 55 แห่งนี้ ถือเป็นภัตตาคารแห่งแรกในเมืองไทย ด้วยเพราะว่า เดิมที ทางผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ ได้มีนโยบายทำร้านอาหารไทยในต่างประเทศเพื่อเจาะกลุ่มตลาดผู้บริโภคชาวต่างประเทศ ที่ชื่นชอบอาหารไทย

โดยสาขาแรกอยู่ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ ก่อนที่จะขยายสาขาออกไปอีก 3 แห่ง คือที่ Knightsbridge, Oxford Circus, และ Soho รวมไปถึงการเปิดสาขาในประเทศต่างๆทั้งในยุโรป และเอเชีย ประกอบด้วย กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์, เวียนนา ออสเตรีย, กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ,สิงคโปร์

และ ประเทศไทย ตามลำดับ บรรยากาศของร้านได้รับการตกแต่งสไตล์ไทยโมเดิร์น ลักษณะของร้านเป็นบ้านไม้ขนาด 2 ชั้น แซมด้วยพรรณไม้ที่ให้ความร่มรื่น ขณะที่ภายในของร้าน ชั้นล่างได้แบ่งออกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ทั้งมุมนั่งสบายๆ จิบเครื่องดื่มเย็นฉ่ำ บนโซฟา หรือจะเป็นห้องส่วนตัวที่เหมาะสำหรับรับรองแขกคนสำคัญถึง 3 ห้อง หากใครอยากรับลมเย็นๆ และนั่งชมทิวทัศน์ยามเย็น ก็เลือกนั่งบริเวณระเบียงชั้นสองได้ โดยทุกมุมของร้านยังได้รับการประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า และศิลปวัตถุ หลายชิ้นที่มาสร้างบรรยากาศให้ภายในร้านแห่งนี้ ดูสบายตา ที่ผู้บริหารเขาได้วางคอนเซ็ปต์ แล้วว่า อยากให้ลูกค้าได้ความรู้สึกเหมือนกับอยู่บ้านตัวเอง

หลังจากที่ดื่มด่ำกับบรรยากาศเต็มอิ่มแล้ว มาเติมเต็มด้วยอาหารที่ทางร้านได้จัดเตรียมไว้ให้แบบชนิดไม่อิ่มห้ามกลับบ้านกันเลยทีเดียว

โดยเริ่มจากอาหารเรียกน้ำย่อยจานแรก “ภัทรา ทาโก้”  ที่มีอาหารมากมายให้เลือกลิ้มรสในจานเดียว ประกอบด้วย แผ่นทาโก้กรอบๆ ที่นำมาให้ทานคู่กับ หมู-กุ้งย่างใบชะพลู ไก่สะเต๊ะ ยำมะม่วง และ ปูกรอบคั่วพริกเกลือ ก่อนที่จะเข้าสู่โหมดการชิมอาหารจานถัดไป

จานต่อมา คือ แคนาเดียน รอบสเตอร์  ชื่ออาจฟังดูเป็นฝรั่ง แต่แท้ที่จริงแล้ว ก็คือ พล่ากุ้งรอบสเตอร์ นั่นเอง โดยกุ้งรอบสเตอร์ตัวโตที่นำมาพล่าด้วยสูตรเด็ดตามแบบฉบับไทยแท้ๆ ของร้าน นำเข้ามาจากประเทศแคนาดา ทำให้ได้รสชาติหวานของเนื้อกุ้งแบบเต็มๆ ยิ่งผนวกกับกลิ่นหอมของเครื่องสมุนไพรไทยด้วยแล้วยิ่งทำให้น้ำลายสอ ยิ่งได้รับประทานคู่กับข้าว 4 สี ร้อนๆ ที่เป็นเหมือนเอกลักษณ์ของร้านภัทราไปแล้ว ยิ่งอร่อยถูกใจ ด้วยเพราะสีสันและรสชาติความนุ่มอร่อยของข้าวที่หุงอย่างพิถีพิถันและอุดมไปด้วยคุณประโยชน์และ วิตามินมากมายในจานเดียว คือ ข้าวหอมมะลิ (ขาว) ข้าวใบเตย (เขียว) ข้าวมันปู (แดง) และ ข้าวดอกคำฝอย (เหลือง)

ถัดมาอีกจานที่ขาดไม่ได้เลย หากมาที่ร้าน “ภัทรา” ก็คือ ซี่โครงแกะย่าง ส้มตำ ข้าวเหนียวทอดที่ทางร้านคัดสรรค์เนื้อแกะชั้นดีมาจากประเทศนิวซีแลนด์ ก่อนคลุกเคล้าด้วยเครื่องหมักสมุนไพรอย่างตระไคร้ แล้วย่างจนกลิ่นหอมกรุ่น โดยที่เนื้อแกะยังคงนุ่ม นำขึ้นมาใส่จาน เสิร์ฟพร้อมกับส้มตำ ยิ่งได้รับประทานพร้อมกับข้าวเหนียทอด หั่นเป็นชิ้นพอคำ ยิ่งทำให้รสชาติอร่อยมากขึ้น จนแทบลืมข้าวเหนียวไก่ย่าง ส้มตำ กันไปเลย

หลังจากที่อิ่มหนำสำราญกับอาหารจานหลักกันไปแล้ว ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยของหวาน ที่ดูจะธรรมดา แต่ก็ไม่ธรรมดาอย่าง กล้วยไข่เชื่อมราดคาราเมลซอส ที่ว่าไม่ธรรมดาก็ตรงที่ คาราเมลซอส ที่ช่วยให้กล้วยไข่ราดกะทิที่เรารับประทานกันจนคุ้นชินให้มีรสชาติที่แปลกใหม่ ที่ไม่เพียงแต่จะหวานกลมกล่อมและหอมเท่านั้น แต่ยังมีความกรอบตั้งแต่คำแรกจนถึงคำสุดท้ายช่วยให้ได้รสสัมผัสที่แปลกใหม่ขึ้น ใครไม่ลองไม่รู้หรอกว่า อร่อยจนอยากจะขอเพิ่มอีกสักจาน

ที่ตั้ง : เลขที่ 375 ซ.สุขุมวิท 55 ทองหล่อซอย 19 กรุงเทพฯ 10110

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : http://www.clubaroy.com/