หมดเดือนเมษาสุดหรรษาแล้ว วันหยุดยาวก็ยังคงมีต่อเนื่อง เรามาหาที่เที่ยวหลากสไตล์ ที่เที่ยวสวยๆ ที่ชีวิตนี้ต้องได้ไปสักครั้ง ก็คงตายตาหลับแน่นอน
ลองไปดูกันเลยดีกว่า ว่ามีที่ไหนบ้าง
1.นาบัว คลองมหาสวัสดิ์ นครปฐม
นาบัว เสน่ห์แห่งวิถีชีวิตริมสายน้ำแห่งคลองมหาสวัสดิ์ที่ยังคงอบอวลไปด้วยมนตราน่าหลงใหลด้วยเรือนไม้ริมสองฟากฝั่ง สะท้อนถึงลมหายใจของความเรียบง่าย ทว่าลำคลองสายนี้กลับมีความสุขมากกว่าเพราะสุดคันคลองนั้น… เรือลำน้อยจะพาไปสู่ความอลังการของนาบัวที่กว้างไกลสุดสายตาขนาด 20 ไร่ ตรงหน้าแห่งนี้คือ สถานที่สาธิตการทำนาบัวของชุมชนที่พวกเขาภาคภูมิใจ
ช่วงเวลาชมดอกไม้ที่ดีที่สุด คือ ช่วงเช้า ประมาณ 08.00-11.00 น. ดอกบัวจะบานเต็มที่
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://goo.gl/etIGB0
2.ชมผีเสือ ที่ปางสีดา สระแก้ว
อุทยานแห่งชาติปางสีดาถือเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก และอีกหนึ่งกิจกรรมเด่นของอุทยานฯ แห่งนี้ คือ “กิจกรรมดูผีเสื้อ” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 1 พ.ค.- 31 ก.ค.2558 ภายในงาานมีกิจกรรมดูผีเสื้อแมลงปีกสวยที่มีมากกว่า 300 ชนิด ชมนิทรรศการผีเสื้อและเทคนิคการดูผีเสื้อจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา กิจกรรมแค้มปิ้ง นอนเต็นท์ เล่นน้ำ ตกปลา
สิ่งควรรู้กับกิจกรรมดูผีเสื้อที่ปางสีดา
การแต่งกาย ควรสวมใส่ด้วยเสื้อผ้าที่มีสีกลมกลืนกับธรรมชาติ สีไม่ฉูดฉาด
เวลาที่เหมาะสม ผีเสื้อส่วนใหญ่ชอบแดด และหายไปเมื่อหมดแดด เวลาที่เหมาะสมคือช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. เป็นต้นไป
ติดต่อสอบถามข้อมูลและตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครนายก โทร. 0-3731-2282, 0-3731-2284
3.สามพันโบก อุบลราชธานี
แก่งสามพันโบก เริ่มเป็นที่รู้จักและปรากฎสู่สายตานักท่องเที่ยว เมื่อโฆษณาของ ท.ท.ท. ชุด พี่เบิร์ด เริ่มออก ฉายภาพสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นฉากจบของโฆษณาชุดนี้จึงกลายเป็นคำถามว่า ที่ไหนกัน เมืองไทยมีที่แห่งนี้ด้วย เหรอนับแต่นั้นมา แก่งสามพันโบก จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่กำลังเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยม จากนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง แก่งสามพันโบกเป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขงในช่วงฤดูน้ำหลากซึ่งเกิด จากแรง น้ำวนกัดเซาะ กลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000 แอ่ง หรือ 3,000 โบก โบก หรือแอ่ง หมายถึง บ่อน้ำลึกในแก่งหินใต้ ลำน้ำโขง และคำว่า “โบก” เป็นภาษาของลาวที่มักนิยมเรียกกัน และจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำแห้งขอด แก่งหินดังกล่าวก็จะโผล่พ้นน้ำกลายเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติสุดอลังการกลางลำน้ำโขง ที่สวยงาม แปลกตา จนชาวบ้านเรียกว่า แกรนแคนยอนน้ำโขงซึ่งจะสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ได้
ข้อมูลเพิ่มเติม http://goo.gl/DWNxU5
4.เมืองจันทบุรี สวนสวรรค์ร้อยพันธุ์ผลไม้
1 ใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด จาก ททท. จันทบุรีต้อนรับทุกคนด้วยท้องทะเลสงบงาม วิถีประมงอบอุ่น และความหวานฉ่ำของหลากรสผลไม้สดๆ จากสวน ซึ่งตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ผลผลิตจากสวนผลไม้มากมาย พากันเรียงหน้าละลานตาพร้อมรับนักท่องเที่ยว ทั้งแบบเดย์ทริปชิมบุฟเฟต์และสัมผัสชีวิตชาวสวนในโฮมสเตย์ โดยกระจายไปทั้งตัวเมืองจันทบุรี และสิ่งที่พลาดไม่ได้อีกอย่างคือ ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ถนนเลียบชายหาดที่ได้ชื่อว่าสวยที่ในภาคตะวันออก เส้นทางยาวกว่า 111 กิโลเมตร ทอดตัวเลียบทะเลผ่านหาดคุ้งวิมาน อ่าวคุ้งกระเบน หาดแหลมสิงห์ จากนั้นตัวถนนโค้งไปตามไหล่เขาผ่านจุดชมวิวหลายแห่ง อาทิเช่น หาดแหลมสน ปากแม่น้ำจันทบุรี จุดชมวิวเนินนางพญา เหมาะกับการขับรถรับลมชมวิว และยังมีเลนจักรยานด้วย
5.เกาะกูด สวรรค์อันเงียบสงบ ตราด
วันไหนท้องฟ้าสดใสไร้เมฆหมอก อยากชวนให้คุณหันหลังให้กับความวุ่นวายมุ่งหน้าไปยังภาคตะวันออกของประเทศสไทย นั่งเรือออกไปประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จะพบกับเกาะที่มีบรรยากาศส่วนตัว ซึ่งรู้จักกันในนาม “เกาะกูด” ที่นี่ยังคงโอบกอดความอุดมสมบูรณ์ไว้อย่างเหลือเชื่อ ธรรมชาติรอบเกาะที่ยังคงสวยงามปราศจากสิ่งรบกวนรวมไปถึงทรายขาว เนียนนุ่มราวแป้งฝุ่น ความเงียบของที่นี่ ชวนให้ขี้เกียจนอนอ่านหนังสือหรือฟังเพลงริมชายหาด หรือใครต้องการกิจกรรมก็สามารถพายเรือ ดำน้ำตื้นได้เกือบทั้งเกาะ ไม่มีเจ็ทสกีมารบกวน นี้แหละสวรรค์อันเงียบสงบของจริง
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : http://teaw-ing.com/