10 ผลไม้ที่ไม่ควรปอกเปลือกก่อนรับประทาน
1.แอปเปิ้ล
เปลือกแอปเปิ้ลมีสารสำคัญในการดูแลสุขภาพหัวใจ ควบคุมความดันโลหิต มีวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินเค โพแทสเซียมปริมาณค่อนข้างสูง
2.แตงโม
เปลือกแตงโมมีไลโคปีนสูงมาก ไลโคปีนเป็นสิ่งที่นำมาสกัดแล้วนำมาปอกหน้า ดีต่อสุขภาพ มีเบต้าแคโรทีน มีซิทรูรีน ช่วยเรื่องการทำงานของหลอกเลือด ช่วยลดความดันโลหิต บรรเทาอาการของโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ
3.มะเขือม่วง
เปลือกสีม่วงเข้มของมะเขือม่วงเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีชื่อว่านาซูนิน หนึ่งในสารกลุ่มแอนโธไซยานินที่มีฤทธิ์ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง อีกทั้งยังช่วยในการทำงานของสมอง และสามารถช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้
ไม่เพียงเท่านั้น ในเปลือกมะเขือม่วงยังอุดมไปด้วยกรดคลอโรเจนิกที่สามารถช่วยป้องกันการอักเสบ และส่งเสริมความต้านทานต่อกลูโคสในร่างกาย ทำให้ความเสี่ยงโรคเบาหวานลดลง
4.แตงกวา
บริเวณเปลือกเป็นส่วนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุซิลิก้า ช่วยสร้างเสริมสุขภาพผมและเล็บให้แข็งแรงเงางาม ไม่เพียงเท่านั้น เปลือกยังมีไฟเบอร์สูงและช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายอีกด้วย
5.แครอท
เปลือกแครอทมีเบต้าแคโรทีนที่ช่วยบำรุงสายตา และไฟเบอร์ที่ดีต่อลำไส้
6.มันฝรั่ง
มันฝรั่งเป็นพืชอีกชนิดที่สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือก แต่ก็ต้องนำไปทำให้สุกก่อนนะ โดยเปลือกมันฝรั่งนั้นเต็มไปด้วยไฟเบอร์ และสารอาหารอย่างวิตามินเค โพแทสเซียม ทองแดงและธาตุเหล็ก
7.กล้วย
เปลือกกล้วยมีคุณค่าทางอาหารทัดเทียมกับเนื้อกล้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี 6 วิตามินบี 12 แมกนีเซียม และโพแทสเซียม อีกทั้งยังมีไฟเบอร์ที่มีสูงกว่าในเนื้อกล้วย สามารถช่วยระบบขับถ่าย
นอกจากนี้ในเปลือกกล้วยก็ยังมีสารทริปโตเฟน ที่ช่วยสร้างเสริมสารเซโรโทนินในร่างกาย ส่งผลทำให้อารมณ์ดีขึ้น ลดความเสี่ยงโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย
8.ส้ม มะนาว เลมอน
ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเหล่านี้ก็คือส่วนเปลือกมีวิตามินซีสูงกว่าเนื้อในถึง 2 เท่า ! แถมยังอุดมด้วยสารไรโบฟลาวิน วิตามินบี 6 แคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม นอกจากนี้สารฟลาโวนอยด์ที่อยู่ในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและต้านการอักเสบอีกด้วย
วิธีรับประทานก็ไม่ต้องรับประทานสด ๆ ก็ได้เพราะถ้ารับประทานสด ๆ แล้วอาจจะทำให้รู้สึกขม ลองนำไปแปรรูปแบบอบแห้งหรือเชื่อมเอาไว้รับประทาน
9.ฟักทอง
เปลือกฟักทองมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมความดันโลหิต บำรุงอวัยวะต่าง ๆ และช่วยสร้างเสริมส่วนที่สึกหรอได้
10.หัวบีท
ในเปลือกของหัวบีทมีคุณค่าทางอาหารมากมายอย่างวิตามินเอ ซึ่งมีสูงเป็นสองเท่าของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี วิตามินบี 6 แมกนีเซียม โพแทสเซียม แคลเซียม และธาตุเหล็ก
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : sanook.com