“อนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช” ตั้งอยู่ภายในบริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ริมถนนหันตรา-ช่างแสง ระหว่างหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 4 ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ความเป็นมา
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 พสกนิกรชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ปรึกษาหารือกันว่าจะทำการสิ่งใดเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พสกนิกรชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยแท้จริง จึงเป็นที่มาของการก่อสร้างอนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี ที่ประกอบด้วยกิจกรรมสำคัญ 4 ประการ คือ
1. กิจกรรมการสร้างพระพุทธรูปประธานอนุสรณ์สถาน
2. กิจกรรมปิดทองหลังพระ
3. กิจกรรมรวมใจภักดิ์รักพระเจ้าอยู่หัว
4. กิจกรรมคืนหนองโสนให้ชาวอยุธยา
และภายในอนุสรณ์สถานแห่งนี้ มีพระพุทธรูปประธานอนุสรณ์สถาน เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ประจำพระชนมวารขนาดใหญ่ สูง 9 เมตร 84 เซนติเมตร (เป็นพระปางประจำวันเกิดวันจันทร์ 9 หมายถึง รัชกาลที่ 9 และ 84 หมายถึง ครบ 84 พรรษา) ฐานพระมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 84 เมตร สร้างเป็นขั้นบันไดรอบฐาน 7 ขั้น (หมายถึง พระชนมพรรษา 7 รอบ)
ขณะที่กำแพงด้านหลังองค์พระพุทธรูปตกแต่งด้วยงานประติมากรรมหินทราย แสดงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานพสกนิกรชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 9 เรื่อง อาทิ การกักเก็บน้ำเพื่อบรรเทาอุทกภัย การผันน้ำเพื่อการเกษตร เป็นการนำพระบรมราโชบายในเรื่องการปิดทองหลังพระ ซึ่งเป็นการทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน นอกจากนี้ ยังมีการจำลองสิ่งก่อสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ทั้ง 16 อำเภอ ให้เข้าไปชมได้อีกด้วย ดังเช่นอำเภอพระนครศรีอยุธยาซึ่งมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น คือ เจดีย์พระศรีสรรเพชญ์ โดยได้จำลองเจดีย์ จำนวน 3 องค์ ภายในเจดีย์, ศูนย์ศิลปาชีพที่บางไทร, โรงไฟฟ้าที่วังน้อย และจำลองตลาดน้ำ ฯลฯ
อนุสรณ์สถานแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่รวมจิตใจคนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเพื่อต้องการแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพระราชกรณีย์กิจที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาหลายต่อหลายครั้ง เช่น ในปี 2555 ที่ทรงเสด็จเกี่ยวข้าวบริเวณทุ่งมะขามหย่อง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เป็นมิ่งขวัญแก่ชาวพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะเกษตรกรชาวนาอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม อนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดีฯ เปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจเข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
การเดินทาง
ทางรถไฟ มาลงที่สถานีบ้านม้า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ส่วนเส้นทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ วิ่งตรงมาทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามทางหลวงหมายเลข 32 ตรงมาตามทางเลยจุดเลี้ยวเข้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปอีกหน่อย จะเจอทางเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหลวงหมายเลข 3053 อีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะเจอทุ่งหันตราอยู่ทางซ้ายมือ นอกจากนี้ ยังมีการจัดเช่าจักรยานขี่รอบพื้นที่ชมสิ่งก่อสร้างเมืองจำลองโบราณ ทั้งบ้านทรงไทย โบราณสถานต่าง ๆ รูปปั้นอนุสาวรีย์ และวัด
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : คุณ นายHUT สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ,http://www.tinyzone.tv/