หากใครเป็นนักทานของหวานตัวยงคงต้องมีความฝันเล็กๆ เหมือนดิฉันว่าอยากจะไปลองชิมขนมเค้กสไตล์ญี่ปุ่นที่ประเทศญี่ปุ่นสักครั้งในชีวิตเป็นแน่ แต่วันนี้ร้าน Okashi by Poonni ก็มาทำความฝันของดิฉันให้เป็นจริง โดยไม่ต้องบินไกลไปถึงญี่ปุ่น เพราะร้านนี้เค้าเสิร์ฟขนมเค้กสไตล์ญี่ปุ่นแท้ที่สวยและอร่อยไม่ผิดเพี้ยนไปจากบินไปทานที่ญี่ปุ่นเลยเชียว เพราะเพียงแค่ชื่อ Okashi ก็การันตีความเป็นญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เพราะคำนี้เป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่าขนมหวานนั่นเองจ้า
ความอร่อยของเค้กสไตล์ญี่ปุ่นจะเป็นอย่างไร วันนี้เราจะมาลองชิมกัน
การเดินทางมายังร้าน Okashi by Poonni ก็แสนสะดวกสบายเพราะร้านตั้งอยู่ภายในโครงการ Navamin Festival Walk บนเส้นเกษตร-นวมินทร์ (ซึ่งจริงๆ ตัวโครงการเองก็น่ารัก น่ามาเดินเล่นชิลล์ๆ ยามเย็นกับเพื่อนสาวมากๆ ค่ะ) บรรยากาศภายในร้าน Okashi by Poonni อาจไม่หวานใสแบบร้านเค้กส่วนใหญ่ แต่ก็จะได้อารมณ์ญี่ปุ่นด้วยโทนสีดำช็อคโกแล็ตและแดงเชอร์รี่ ที่คุณแต้ว หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งร้านบอกว่าชอบเป็นการส่วนตัว แถมเพิ่มความหรูหราด้วยโคมไฟคริสตัลแท้สั่งทำพิเศษเพิ่มความหรูหราให้กับร้าน แต่ก็อบอุ่นอยู่ในทีด้วยของกระจุกกระจิกจากญี่ปุ่นที่ประดับไว้บนชั้นโดยรอบ
มาถึงแล้วร้านเค้กเล็กๆ น่ารักสไตล์ญี่ปุ่น แม้จะมีที่นั่ง เพียง 3-4 โต๊ะและโซนเอาท์ดอร์อีกเล็กน้อย แต่ก็อัดแน่นด้วยเค้กอร่อย
บรรยากาศภายในร้าน และโคมไฟคริสตัลสุดหรู
ประดับประดาด้วยของกระจุกกระจิกจากญี่ปุ่น สร้างบรรยากาศน่ารัก
ไอคอนการ์ตูนเทพเจ้าญี่ปุ่นและแมวกวัก
มีเทียนน่ารักและของกระจุกกระจิกขายด้วย
เมื่อเปิดประตูร้านเข้ามาเราก็ต้องตื่นตาตื่นใจกับหน้าตาเค้กแสนสวยในตู้ขนม ให้ความรู้สึก “Fresh, Premium and Natural” ตามคอนเซปท์ของร้านจริงๆ เพราะบรรดาเค้กของร้านนี้ประดับประดาด้วยผลไม้สดเกรดพรีเมี่ยม ที่อิมพอร์ตเข้ามาจากต่างประเทศทั้งหมด แถมเค้กเนื้อมูสสไตล์ญี่ปุ่นก็ใช้ครีมสด ไม่ใส่สารกันบูดและไม่เคยเก็บค้างคืน วัตถุดิบหลายอย่างที่ทางร้านเลือกใช้ก็คัดสรรอย่างดีและสั่งตรงมาจากประเทศที่ดีที่สุดเท่านั้นจริงๆ
แอบส่องภายในตู้เค้กที่มีเค้กหน้าตาน่าทานหลากชนิด
ความโดดเด่นของทางร้านคือผลไม้สดอิมพอร์ตจากต่างประเทศที่ประดับเค้กไว้อย่างอลังการ
ทีรามิสุแสนสวย
Dark Chocolate Cheese ซึ่งที่นี่อิมพอร์ตดาร์คช็อคโกแล็ตมาจากสวิส
มูสช็อคโกแล็ตอีกชิ้นที่น่าลอง
ทาร์ตผลไม้หลากสีสัน
ชูครีมก็ตกแต่งไว้อย่างอลังการ
หลังจากเกาะขอบตู้น้ำลายหยดแหมะๆ จนหนำใจแล้ว เราก็มาลองความอร่อยของเค้กสไตล์ญี่ปุ่นของร้าน Okashi by Poonni ซึ่งการันตีโดยเชฟเคนที่จบการทำขนมมาจากสถาบันเลอ กอดองเบลอ ที่ประเทศญี่ปุ่นกันดีกว่า เมนูแรกจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Fruity Frosty (185 บาท) ความมหัศจรรย์แห่งความอร่อยลงตัวของผลไม้สดหลากชนิดทั้งสตอเบอร์รี่ กีวี่ เชอร์รี่ และเบอร์รี่ต่างๆ ผสานรสชาติมูสสตอเบอร์รี่ ครีมสดสูตรพิเศษ และฐานเค้กสปันจ์ด้านล่าง เพิ่มความกลมกล่อมได้ด้วยเบอร์รี่ซอสซึ่งทางร้านจะนำสตอเบอร์รี่และราสพ์เบอร์รี่สดมาปั่นเป็นซอส เมนูนี้จึงกลายเป็นดาวเด่นประจำร้านไปจริงๆ
Fruity Frosty ดูชั้นเค้กและเนื้อมูสกันได้ชัดๆ
ความอลังการที่แท้จริงคือเหล่าผลไม้อิมพอร์ตลูกโตหวานอร่อยด้านบนเค้ก (ในตัวเค้กก็มีผสมอยู่ด้วย) เต็มอิ่มกันจริงๆ
ซอสเบอร์รี่เพิ่มความกลมกล่อมให้เค้กได้ดี
เมนูต่อมา โดยเด่นด้วยสีและรูปร่างสุดครีเอท Japanese Melon Frosty (175 บาท) ด้านบนท้อปด้วยเนื้อเมลอนญี่ปุ่นสดหวานหอม โอบล้มด้วยเปลือกเมล่อนเก๋ไก๋ ด้านล่างเป็นมูสที่ผสานเนื้อเมล่อนเข้าไปอีกที ได้สัมผัสความอร่อยของเมล่อนเต็มๆ ละมุนละไมมากค่ะ
หอมละมุนอร่อย สดชื่นไม่หวานเลี่ยน
เพิ่มความหนักแน่นขึ้นอีกนิดด้วยเมนู Blueberry Cheesecake (180 บาท) เนื้อชีสเค้กเนียนแน่น อมเปรี้ยวของบลูเบอร์รี่ที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อครีมชีสเข้ากันดีกับครัสต์กรอบด้านล่าง ยิ่งทานคู่กับผลไม้สดด้านบนยิ่งอร่อยเกินห้ามใจ
เอาใจคนรักชีสด้วยรสชาติเปรี้ยวกำลังดี ตัดเลี่ยนด้วยผลไม้
สำหรับเมนูเครื่องดื่มก็พิเศษไม่น้อยหน้า เพราะทุกเมนูของที่นี่เราจะได้ผสมน้ำเชื่อม น้ำหวานเข้าด้วยกันเอง ได้รสชาติและระดับความหวานตามความชอบ สำหรับสาวเปรี้ยวซ่าอย่างเรา ขอลอง Yusu Lamonade Honey Soda (175 บาท) โดดเด่นด้วยรสส้มยูสุของญี่ปุ่น หวานหอมกลิ่นเลมอนจากน้ำเชื่อมพิเศษซึ่งต้องสั่งจากต่างประเทศเลยทีเดียว เติมความซ่าอีกนิดด้วย Sparkling Water เปรี้ยว หวาน ซาบซ่า ชื่นใจ เมนูนี้เลิฟสุดๆ
เมนู Sparkling Drink เสิร์ฟมาเป็นเซ็ทให้เราได้สนุกกับการผสมเอง
เติมน้ำส้ม น้ำสปาร์กกลิง และน้ำผึ้งลงไปในแก้ว น้ำสปาร์กกลิงสามารถชงได้ 2 รอบเลยค่ะ
เมื่อผสมเสร็จแล้วหน้าตาจะเป็นแบบนี้ เปรี้ยวไปหวานไปก็เติมน้ำผึ้งเพิ่มเองได้จ้า
สักแก้วมั้ยจ๊ะ
หากใครเป็น Cake Lover และยังไม่ได้มาลองชิมเค้กที่ Okashi by Poonni ก็ต้องบอกว่าเอ้าท์สุดๆ เพราะเค้กอร่อย คุณภาพเยี่ยม ดุจไปกินที่ญี่ปุ่นแบบนี้ต้องโดนสักครั้งในชีวิตจริงๆ แม้ราคาจะสูงกว่าร้านอื่นๆ แต่เมื่อเทียบกับปริมาณและคุณภาพแล้ว เชื่อว่าหลายคนยอมทุ่มหมดตัวแน่นอนค่ะ
ขอบคณภาพและข้อมูลจาก: oneprice.com, http://www.tinyzone.tv/