ช่วงนี้เทรนด์ทหารกำลังมาแรง มองไปทางไหนก็เห็นแต่ชุดลายพรางสีเขียวๆ ทุกมุมเมือง เนื่องด้วยเหตุรัฐประหารที่เพิ่งเกิดขึ้น ทำให้เวลานี้กระแสทหารกำลังฮ็อต พร้อมความหวังว่าความสงบสุขจะกลับคืนสู่เมืองไทยในเร็ววัน ให้เมืองไทยกลับมาเป็นเมืองที่อุดมด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง
สำหรับคนที่อยากจะพาตัวเข้าไปใกล้ชิดกับทหารในช่วงนี้ วิธีหนึ่งที่อยากจะมาแนะนำก็คือการเข้าไปท่องเที่ยวในเขตทหาร ซึ่งบ้านเรามีเขตทหารหลายแห่งเปลี่ยนจากเขตทหารห้ามเข้า เป็นเขตทหารยินดีต้อนรับ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชม และนี่ก็คือ 3 แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในพื้นที่เขตทหาร 3 เหล่าทัพ ที่รอให้ผู้สนใจได้ไปสัมผัสบรรยากาศในรั้่วสีเขียวกัน
พาไปเที่ยวเขตทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ เริ่มจากทัพบกกันก่อนเลย ที่ “หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ” ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่นี่มีโครงการท่องเที่ยวในหน่วยทหารที่เน้นเรื่องการผจญภัย เช่น การฝึกเป็นพลร่ม การกระโดดหอสูง การฝึกใช้อาวุธ ไต่หน้าผา การดำรงชีพในป่า เรียกได้ว่าให้เราได้ไปสัมผัสชีวิตการฝึกของทหาร
กิจกรรมเด่นไม่ควรพลาดหากเข้ามาท่องเที่ยวในหน่วยทหารก็คือกิจกรรมการทดสอบกำลังใจด้วยการกระโดดหอสูง 34 ฟุต สำหรับความสูง 34 ฟุต หรือประมาณตึกสูง 3 ชั้น ซึ่งเป็นจุดหวาดเสียวที่สุด ใครไม่ทันเตรียมใจอาจเข่าอ่อนได้ และคนที่ใจกล้ากระโดดหอสูงจะได้รับมอบเข็มรูปปีกนกซึ่งเป็นเครื่องหมายว่าเราผ่านการกระโดดหอทดสอบกำลังใจมาแล้ว
สำหรับคนชอบออกแรงออกกำลัง ยังมีกิจกรรมการไต่เขา และไต่หน้าผา เนื่องจากการเป็นทหารนั้นจะต้องเจอกับสภาพภูมิประเทศที่ไม่ได้สะดวกสบายนัก การฝึกไต่เขาและไต่หน้าผาก็จะเป็นการเอาชนะภูมิประเทศที่ยากลำบาก โดยผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้ขั้นตอนพื้นฐานการไต่เขา ไต่หน้าผา เรียนรู้การใช้อุปกรณ์ และลักษณะของหน้าผา ฝึกวิธีการโหนตัว โรยตัวลงจากหน้าผา
กิจกรรมที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างหนึ่งก็คือ การเรียนรู้เกี่ยวกับการดำรงชีพในป่าโดยใช้วัสดุจากธรรมชาติที่สามารถหาได้ในป่า เช่น พันธุ์ไม้ต่างๆ การประกอบอาหารจากวัสดุที่หาได้ในป่า เช่น การหุงข้าวด้วยกระบอกไม่ไผ่ การดื่มน้ำจากเถาวัลย์ การเรียนรู้ชนิดของงู และการรับมือเมื่อเจอกับงู โดยจะมีวิทยากรซึ่งมีความชำนาญเป็นผู้สาธิตให้ผู้ชมได้ใจหายใจคว่ำกันเล่นๆ
“ชมเรือจักรีนฤเบศร” ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ
หากอยากท่องเที่ยวในเขตฐานทัพเรือที่มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจหลากหลายสไตล์ต้องนึกถึง “ฐานทัพเรือสัตหีบ” อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ภายในเขตฐานทัพเรือจะมี “ศาลพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” หรือเสด็จเตี่ยที่เหล่าทหารเรือต่างเคารพนับถือ ตั้งอยู่บนเขาแหลมปู่เจ้า ซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลสัตหีบ
และที่พลาดไม่ได้ก็คือการมาชม “เรือหลวงจักรีนฤเบศร” ที่จอดทอดสมออยู่บริเวณท่าเรือจุกเสม็ด เรือหลวงจักรีนฤเบศรถือเป็นความภาคภูมิใจของกองทัพเรือ เนื่องจากเป็นเรือบรรทุกอากาศยานลำแรกและลำเดียวของราชนาวีไทย บนดาดฟ้าเรืออันกว้างใหญ่นั้นเป็นลานบินของอากาศยาน โดยภารกิจหลักของเรือหลวงในยามสงบคือการคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติในทะเล และภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล และกรณีประสบภัยอื่นๆ เช่น กรณีสึนามิในประเทศไทย หรือเหตุการณ์น้ำท่วมทางภาคใต้ ส่วนในยามที่มีศึกสงคราม เรือหลวงลำนี้ก็มีหน้าที่ควบคุมและบัญชาการกองเรือในทะเล รวมถึงสนับสนุนการปฏิบัติการทางการทหารอีกด้วย
ในเขตฐานทัพเรือสัตหีบยังเป็นที่ตั้งของ “ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล” ที่ตั้งอยู่บริเวณชายหาดหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ภายในศูนย์จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ อาคารบรรยายให้ความรู้ เกี่ยวกับวงจรชีวิตของเต่าทะเล ข้อมูลการวางไข่เต่าทะเลในประเทศไทย เต่าทะเลชนิดต่างๆ และสถานการณ์ของเต่าทะเลในประเทศไทย และอีกส่วนหนึ่งคือบ่ออนุบาลเต่าทะเลในช่วงอายุต่างๆ ซึ่งทางกองทัพเรือจะจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าตรวจประจำตามหาดในเขตฐานทัพเรือสัตหีบเพื่อเฝ้าตรวจการลักลอบเก็บไข่เต่าทะเล และเก็บรวบรวมไข่เต่าทะเลจากหาดต่างๆ นำไปเพาะฟักในพื้นที่ที่เตรียมไว้ ก่อนจะอนุบาลลูกเต่าและปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติต่อไป โดยในบ่ออนุบาลนี้เองที่จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากผู้ที่เข้าชม ด้วยความน่ารักของลูกเต่าหลายขนาดที่ว่ายน้ำเล่นอย่างไร้เดียงสา
สอบถามเกี่ยวกับการท่องเที่ยวภายในหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษโทร. 0-3641-2192 ส่วนพิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ เปิดให้เข้าชมในเวลาราชการ เวลา 09.00-16.00 น. ปิดวันหยุดราชการ (ยกเว้นการเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะ โปรดติดต่อล่วงหน้า) อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท สอบถามรายละเอียดโทร. 0-3661-2395
ติดต่อสอบถามเยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร โทร. 08 0588 5077, 0 3843 9479 ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ เปิดให้เยี่ยมชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 0830-1700 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ สอบถามรายละเอียดได้ที่ ฝ่ายกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง โทร. 038-431477 ในเวลาราชการ
อุทยานประวัติศาสตร์ กองบิน 53 ตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ. ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 4 กม. เปิดทำการวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00 -16.00 น. อัตราค่าบริการ ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท เพื่อความสะดวก และมีวิทยากรนำชม ควรติดต่อมาล่วงหน้า โทร. 0-9065-7138
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : http://www.manager.co.th/