งานเสริมสร้างวัฒนธรรมประเพณีชนเผ่า ต.วาวีนี้ ได้จัดให้มีการชิมชาวาวี และกาแฟดอยช้า ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้มีกิจกรรมของชาวชนเผ่า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว จะจัดขึ้นวันที่ 1 ธันวาคม 2558 – 31 มกราคม 2559 นี้ จุดเด่นของดอยวาวี นอกเหนือจากชารสดีและกาแฟรสเยี่ยมแล้ว ในช่วงหน้าหนาว โดยเฉพาะในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ยังจะได้เห็นดอกพญาเสือโคร่งสีชมพูสดใสบานเต็มไปหมด จนบางคนเรียกว่า ‘ดอกซากุระเมืองไทย’
จุดชมความงามของซากุระที่ดอยวาวีนั้น จะอยู่ที่ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตเชียงราย (สถานีทดลองเกษตรที่สูงวาวี) บน ‘ดอยช้าง’ เขาลูกหนึ่งแห่งดอยวาวีที่มีรูปร่างเหมือนช้างสองแม่ลูก ที่สถานีแห่งนี้นอกเหนือจากไม้เมืองหนาวนานาชนิดแล้ว ยังมีพุทธอุทยาน อันเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสมเด็จพระพุทธสิกชี สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่สถานีฯ กลางพุทธอุทยานมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 9 แห่งที่นำไปทำพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ซึ่งมีน้ำใสสะอาดไหลเย็นฉ่ำตลอดทั้งปีไม่เคยเหือดแห้ง หลายๆ คนนิยมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์มาล้างหน้าล้างตาดื่มกินเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตด้วย
สำหรับประวัติความเป็นมาของดอยวาวี เดิมเป็นหมู่บ้านที่ทหารกองทัพที่ 5 สังกัดกองพล 93 อพยพเข้ามาลงหลักปักฐานในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่ดอยแม่สลอง เมื่อราว พ.ศ.2504 หมู่บ้านวาวีเป็นหมู่บ้านเล็กกว่าหมู่บ้านสันติคีรี บนดอยแม่สลอง แต่ยึดอาชีพปลูกชาพันธุ์พื้นเมืองมาก่อน เนื่องจากละแวกดอยวาวี มีชาป่าขึ้นกระจายอยู่ทั่วไป ชาป่าเป็นชาพันธุ์พื้นเมือง หรือที่เรียกว่า ชาพันธุ์อัสสัม คนเหนือนำไปหมัก ทำเมี่ยง หรือไปชงเป็นชาแดง แต่ไม่หอมเท่าชาอู่หลง และให้ผลผลิตไม่ดี อีกทั้งตั้งอยู่บนดอยห่างไกล ผลผลิตเมื่อนำออกสู่ตลาด จึงมีราคาสูง ส่งขายสู้คู่แข่งไม่ได้ ชาววาวีไม่น้อย จึงหันไปทำสวนผลไม้ ได้แก่ ลิ้นจี่ และส้ม
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ชาพันธุ์ชิงชิง และชาเบอร์ 12 จากไต้หวันได้ถูกนำมาปลูกบนดอยแม่สลองเพื่อผลิตเป็นชาอู่หลง และได้รับความนิยม ชาวบ้านบนดอยวาวี จึงเริ่มหันมาปลูกชาพันธุ์ใหม่แทนพันธุ์พื้นเมืองกันมากขึ้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลวาวี โทร. 0-5360-5950 และ www.wawee.go.th
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : www.suvarnabhumiairport.com , chiangraiairportthai.com ,www.fmthailand.com ,www.dekguide.com , www.thansettakij.com,www.thaiticketmajor.com