สมัยนี้หากที่ใดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต สุดพีค และเป็นช่วยไฮซีซั่น ก็มักจะอัพราคา ค่าที่พัก ค่าบริการต่างๆนาๆ กอบโกยกันชนิดที่ไม่คำนึงถึงกระเป๋าสตางค์มนุษย์เงินเดือนสมัยนี้กันเลยนะค่ะ วันนี้ Traave.com มาพร้อมทริคที่จะช่วยให้การใช้เงินของคุณสำหรับทริปท่องเที่ยวนั้น ไม่บานปลายและใช้เงินอย่างชาญฉลาด จะทำให้ไม่เกินงบประมาณที่คุณกำหนดไว้ และทำให้การท่องเที่ยวของคุณไม่สะดุดค่ะ
1. เตรียมข้อมูล
แน่นอนว่าก่อนไปเที่ยว นอกจากจะต้องวางแผนการลางาน บอกเจ้านาย และเพื่อนร่วมงานแล้ว การเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกใจ ถือเป็นเรื่องแรกที่ต้องเตรียมค่ะ หลังจากเลือกที่เที่ยวแล้วขาดไม่ได้เลยคือ การศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศหรือสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ ว่ามีที่เที่ยวหรือกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง จะได้เตรียมตัวถูกค่ะว่า จะเป็นทริปเดินดูบ้านเมือง งานศิลปะ เดินชอปปิ้ง หรือว่าจะผจญภัย นอกจากเตรียมตัวรับสถานการณ์แล้ว การตรวจสอบสภาพอากาศถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเพื่อจัดเตรียมเสื้อผ้า รองเท้าได้อย่างเหมาะสม รวมถึงหากวางแผนไปเที่ยวต่างประเทศ จะต้องดูว่าประเทศนั้นๆ ต้องการวีซ่าหรือไม่ อย่าลืมตรวจสอบหนังสือเดินทางว่าใกล้หมดอายุหรือยัง เพราะต้องมีอายุการใช้งานคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนนับจากวันเดินทางค่ะ
2. เตรียมค่าใช้จ่าย
การเตรียมเงินให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายถือเป็นเรื่องจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม บางท่านอาจเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่หลายท่านคิดถึงเฉพาะที่เที่ยว อาจยังไม่ได้คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดว่าเท่าไหร่ เรามาลองเช็คกันก่อนดีกว่าค่ะ ว่าคุณได้เตรียมการเผื่อค่าใช้จ่ายเหล่านี้บ้างรึยัง
– ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร
หากคุณเลือกไปเที่ยวกับบริษัททัวร์ ซึ่งบริษัทกำหนดราคาทัวร์ไว้ชัดเจน อันนี้ง่ายค่ะ ในการเตรียมงบประมาณ เพราะทราบค่าใช้จ่ายที่ต้องจัดเตรียมที่แน่นอน แนะนำว่าก่อนตัดสินใจซื้อโปรแกรมทัวร์ ควรเปรียบเทียบราคาทัวร์อย่าง
ถี่ถ้วน เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด เช่น วันออกเดินทางต่างกัน ก็ทำให้ราคาอาจแตกต่างกัน ทัวร์ราคาถูกอาจยังไม่รวมค่าธรรมเนียมบางอย่าง ซึ่งเมื่อรวมค่าธรรมเนียมค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วราคาอาจไม่แตกต่างจากบริษัทอื่น เดี๋ยวนี้ทัวร์ไปเที่ยวยังมีโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต การเลือกบริษัททัวร์ที่มีโปรโมชั่นจ่ายผ่านบัตรเครดิตผ่อน 0% เป็นเวลา 3 เดือน 6 เดือน ก็มีข้อดีนะคะ เพราะจะช่วยให้คุณไม่ต้องเก็บออมเงินนาน สามารถไปเที่ยวได้เร็วขึ้น และยังสะสมคะแนนบัตรเครดิตได้อีกด้วย แต่ต้องอย่าลืมวางแผนการใช้เงินให้ดี ให้กลับมาจากเที่ยวแล้วเราจ่ายไหวด้วยคะ
ถ้าหากคุณเลือกไปเที่ยวด้วยตัวเอง คุณต้องจัดเตรียมการท่องเที่ยวเองทุกอย่าง แนะนำว่าควรเขียนกำหนดการเดินทางในแต่ละวันให้ชัดเจนค่ะ ระบุชื่อโรงแรม ยานพาหนะ สถานที่ที่จะไปเที่ยวชม และอาหารการกินทุกมื้อ พร้อมกับจดบันทึกจำนวนเงินค่าห้องพัก ค่าพาหนะเดินทาง (หรือค่าน้ำมันหากขับรถไปเอง) รวมถึงค่าอาหารโดยประมาณ การจดรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ ช่วยให้ประมาณการได้ว่าคุณควรเตรียมเงินเพื่อการท่องเที่ยวครั้งนี้เท่าไร แนะนำว่า การจองที่พัก ควรเลือกจองโรงแรม หรือเว็บไซต์จองที่พักที่มีนโยบายคืนเงินเต็มจำนวน เมื่อคุณมีความจำเป็นต้องยกเลิกการจองที่พักค่ะ
– ค่าซื้อของ (ค่าช้อปปิ้ง)
การไปเที่ยวในแต่ละครั้ง แน่นอนว่าย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายในการซื้อของ หรือค่าช้อปปิ้ง แนะนำให้รวบรวมรายชื่อคนที่คุณจะซื้อของไปฝาก และจัดสรรงบประมาณขึ้นมาก้อนหนึ่ง เพื่อป้องกันการใช้จ่ายเกินกว่าที่ควรจะเป็น รวมถึงซื้อของฝากได้ครบตามจำนวนคนที่ต้องการ ไม่ตกหล่นใครค่ะ เรื่องชอปปิ้งซื้อของนี่ถ้าหากเป็นการเที่ยวในประเทศ อาจไม่ยุ่งยากมากนัก เพราะไม่มีเรื่องค่าเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะที่การเที่ยวต่างประเทศ จำเป็นต้องมีการเตรียมเงินสกุลประเทศนั้นๆ เพื่อใช้จ่ายระหว่างการเดินทาง โดยสามารถแลกซื้อเงินสกุลต่างประเทศได้จากธนาคาร หรือการเลือกพกบัตรเครดิตติดตัวไปเพื่อใช้จ่ายในต่างประเทศ ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่สะดวกปลอดภัยและอุ่นใจค่ะ ข้อคำนึงในการใช้บัตรเครดิตคือ ควรสังเกตป้ายหน้าร้านหรือสอบถามร้านค้าว่าคิดค่าธรรมเนียมในการใช้บัตรหรือไม่ และถ้าหากมีแผนที่จะซื้อสินค้าจำนวนเงินค่อนข้างสูง อย่าลืมเช็ควงเงินคงเหลือของเรานะคะว่ามีเพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่พอ ก็จะได้เตรียมโทร.ขอวงเงินชั่วคราวล่วงหน้าคะ
– ค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทาง
หลายท่านที่วางแผนไปเที่ยวมักมองข้ามการทำประกันอุบัติเหตุการเดินทาง แต่จริงๆ แล้ว ประกันอุบัติเหตุการเดินทางมีความสำคัญมาก เนื่องจากอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การทำประกันดังกล่าวจะช่วยคุ้มครองการบาดเจ็บและการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากการประสบอุบัติเหตุจากการเดินทาง ซึ่งค่าเบี้ยประกันภัยที่ต้องจ่ายจัดว่าเล็กน้อยมากค่ะเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวของคุณ และโดยทั่วไปการไปเที่ยวกับบริษัททัวร์ ราคาทัวร์จะรวมค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทางอยู่แล้ว แต่คุณสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ เช่น ความสูญเสีย ความเสียหาย หรือความล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง การยกเลิก การหยุดชะงัก ความล่าช้าของการเดินทางหรือเที่ยวบิน ความเจ็บป่วยระหว่างการเดินทางที่ไม่ได้เกิดจากการประสบอุบัติเหตุ เป็นต้น
3. เตรียมเก็บออม
เมื่อทราบค่าใช้จ่ายโดยประมาณแล้ว การเลือกเก็บออมเงินในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้นค่ะ โดยอาจแบ่งเงินจากเงินที่เก็บออมอยู่แล้ว หรือพยายามเก็บออมเงินในแต่ละเดือนให้มากขึ้น แนะนำให้เก็บออมในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องและมีความเสี่ยงไม่สูงนัก เช่น กองทุนรวมตลาดเงิน หรือกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งมีสภาพคล่องใกล้เคียงเงินฝากออมทรัพย์ ซื้อขายได้ทุกวันทำการ โดยรับเงินค่าขายคืนภายใน 1 วันทำการ แต่หากคุณมีเงินออมไว้อยู่แล้ว และวางแผนไปเที่ยวในช่วงปลายปี ก็อาจเลือกเก็บออมใน กองทุนรวม ตราสารหนี้ที่กำหนดอายุโครงการ เช่น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี เพื่อให้เงินออมงอกเงยขึ้นก่อนที่คุณจะนำไปใช้จ่ายในการท่องเที่ยว และไม่เผลอไปถอนใช้ก่อนค่ะ
เมื่อมีความพร้อมด้านการเงินสำหรับไปเที่ยวตามแผนที่วางไว้แล้ว การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงก่อนการเดินทางก็เป็นสิ่งสำคัญนะคะ เนื่องจากการเดินทางท่องเที่ยวอาจเจอสภาพอากาศที่แตกต่างจากเดิมที่เคยอยู่ ทำให้ไม่สบายได้ และ
ถ้าร่างกายไม่พร้อม ต่อให้จิตใจเข้มแข็งแค่ไหน การท่องเที่ยวคงไม่สนุกอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเดินทาง โดยเฉพาะการไปต่างประเทศ และอย่าลืมเตรียมยาประจำตัวเผื่อไปด้วยเสมอค่ะ
เกร็ดการเงินน่ารู้
– เที่ยวในช่วงวันธรรมดา จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าเที่ยวในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ รวมถึงวันธรรมดาจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวน้อยกว่าวันหยุด ซึ่งส่งผลให้มีความสุขในการท่องเที่ยวพักผ่อนอย่างแท้จริง
– การซื้อของหรือช้อปปิ้งในต่างประเทศ บางประเทศ เราสามารถขอคืนภาษีจากร้านค้าที่เราซื้อของได้ สังเกตได้จากร้านค้าจะติดป้ายว่า “Tax Free Shopping” ซึ่งเงื่อนไขในการขอคืนภาษีสามารถสอบถามได้จากร้านค้า
– ไม่ควรเก็บเงินไว้ในที่เดียวกัน ควรเก็บหลายๆ ที่ เพื่อความปลอดภัย และควรถ่ายสำเนาบัตรเครดิตติดไปด้วยกรณีสูญหาย จะได้ติดต่อได้สะดวกรวดเร็วค่ะ
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : http://www.royaltour.co.th/