เมืองไทยในน้ำมีปลาในนามีข้าว อาหารการกินของเรานั้นนับว่าอุดมสมบูรณ์สุดๆ แต่ในขณะเดียวกันความต้องการเปิบของแปลกๆของเรามันก็ไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกัน จนบางครั้งฝรั่งมังค่าที่มาเที่ยวเมืองไทยพอมาเจอกับเมนูเหล่านี้ถึงกับแทบช็อคไปเลย (แต่บางอย่างเราก็เฉยๆ นะ) ที่นำมาให้ชมไม่ใช่เป็นการสนับสนุนแต่อย่างใด แต่ให้คุณรู้ไว้ว่าอย่างนี้ก็มีด้วย บางเมนูก็ได้ยินต่อๆ กันมา จริงหรือไม่จริงก็ไม่อาจทราบได้เหมือนกัน
จานที่ 1 กุ้งเต้น
ชื่อเมนูนี้ไม่ได้ตั้งเอาฮา แต่ไอ้ที่เต้นน่ะ มันกำลังเต้นอยู่จริงๆ! กุ้งตัวจิ๋วนับร้อยนับพันชีวิตจะถูกเสิร์ฟมาในชาม พร้อมกับกระโดดเด้งดึ๋งกันสุดชีวิตเพื่อให้ได้มาซึ่งอิสรภาพ ก่อนจะถูกบีบมะนาวใส่ ให้แสบร้อนตายไปต่อหน้าต่อตา
คนที่ชอบเขาบอกว่า กุ้งเต้นนี้เป็นอาหารที่ผสมผสานความอร่อยและความสนุกเข้าด้วยกัน วินาทีที่ตักกุ้งน้อยพูนช้อนเข้าปากแล้วงับลงไป จะได้รสชาติเค็มๆมันๆ กรุบกรอบอย่าบอกใคร
จานที่ 2 ลาบเลือดเนื้อ
ลืมเรื่องสุขอนามัยทิ้งไปให้หมด เพราะนี่คือเมนูเนื้อดิบๆแดงแจ๋จริงๆ อย่างกับคนคิดเค้าจะกลัวดิบไม่พอ เลยอุตส่าห์เติมเลือดเข้าไปอีก! (ขอย้ำอีกทีว่าทั้งหมดนี้ไม่ผ่านการปรุงสุกทั้งสิ้น Raw Food ของแท้ดั้งเดิม) ปรุงรสนิดหน่อยด้วยน้ำลาบ ข้าวคั่ว และใบสะระแหน่
คนที่ชอบเขาบอกว่า เนื้อดิบๆน้ำแดงพวกเนื้อไว้ดื่มแกล้มเหล้าแล้วมันเข้ากันสุดๆ ทั้งนี้ก็ไม่มีใครรับรองชีวิตคุณแน่ๆว่าหลังจากกินเข้าไปแล้วจะมีโรคหรือพยาธิอะไรตามมาบ้าง
จานที่ 3 กุ้งแช่น้ำปลา
กุ้งแม่น้ำตัวเขื่องดิบๆ แต่งรสด้วยน้ำปลาทานพร้อมพริกกระเทียม เสิร์ฟมาทั้งตัว (อันนี้ถ้ากุ้งไม่สะอาดจริงก็อาจโดนพยาธิได้เหมือนกันจ้า)
คนที่ชอบเขาบอกว่า รสของมันออกเค็มๆเผ็ดๆ และเนื้อดิบลื่นๆเป็นเมือกของกุ้งนั้นให้รสสัมผัสที่ชวนน้ำลายสอมาก
จานที่ 4 ลาบมดแดง
มดตัวน้อยตัวนิดกับไข่ในรังของมัน นับเป็นรางวัลแสนพิเศษสำหรับคนที่เจอเลยทีเดียว นำมาปรุงเป็นลาบ แซบหลายอย่าบอกใคร
คนที่ชอบเขาบอกว่า รังมดแดงที่ขึ้นบนต้นมะม่วงนั้นเป็นอะไรที่ฟ้าประทานสุดๆ เพราะในตัวมดจะเต็มไปด้วยน้ำจากใบมะม่วงที่มันแทะเพื่อทำรัง รสเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด แถมด้วยความมันที่ได้จากไข่มดอีกต่างหาก
จานที่ 5 ไข่ข้าว
ชื่อฟังดูซอฟท์ๆ แต่ที่จริงแล้วไข่ข้าวก็คือไข่ต้มเนี่ยแหละ ที่มากกว่านั้นก็คือข้างในยังมีตัวอ่อนอยู่ด้วย! เป็นไข่ที่ถูกผสมน้ำเชื้อเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ทันจะเติบโตมากไปกว่านี้ก็โดนจับต้มซะก่อน ว่ากันว่าบางฟองเวลาเคี้ยวเข้าไปถึงกับมีขนติดฟันเลย
คนที่ชอบเขาบอกว่า รสชาติก็คล้ายไข่ต้มนั่นแหละ แต่มีความเอนเตอร์เทนตรงที่เวลาได้เคี้ยวตัวอ่อนข้างในเนี่ยแหละ
จานที่ 6 แมลงทอด
นับว่าเป็นภาพชินตาสำหรับเราจริงๆ สำหรับรถเข็นขายแมลงทอด ที่ไม่รู้ขนมากี่สายพันธุ์ ทั้งตั๊กแตน จั๊กจั่น หนอน ที่กล่าวๆมายังมีอีกหลากชนิดต่างพันธุ์กันอีกด้วย (ยังไม่รวมที่คนขายอาจจะหาจับได้จากใต้เตียงอีก) ก่อนกินก็แค่เหยาะพริกไทยกับซอสถั่วเหลืองเป็นอันเสร็จพิธี
คนที่ชอบเขาบอกว่า อร่อยหอมมันยิ่งกว่าเฟร้นช์ฟรายซะอีก แถมแมลงบางชนิดเวลากัดเข้าไปยังได้ความมันบวกความหนึบด้วยอีกต่างหาก
จานที่ 7 หมกฮวก
“ฮวก” เป็นภาษาอีสาน แปลว่า “ลูกอ๊อด” ใช่แล้วครับ ลูกอ๊อดทั้งหลายของกบและคางคกนั่นเอง นิยมแค่สองชนิดนี้เพราะมีลูกอ๊อดขนาดจัมโบ้ ปรุงกับอีกหนึ่งสุดยอดเครื่องปรุงอย่างปลาร้า แค่นี้ฝรั่งขี้นกก็ร้องจ๊ากแล้ว (สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ก็คิดว่ามันชวนพะอืดพะอมซะมากกว่า)
คนที่ชอบเขาบอกว่า พอได้ลองแล้วจะลืมไปเลยว่าพวกนี้มันเคยน่ารักขนาดไหน ยิ่งถ้าได้ตัวที่โตจนเริ่มมีขางอกออกมาแล้วยิ่งดี มีสารอาหารครบถ้วน
จานที่ 8 ปลาไหลต้มเปรต
จานนนี้เป็นอาหารอีสาน ตามหลักแล้วใช้สัตว์ตัวเล็กยังเป็นๆ อยู่ก็ได้ เช่น จิ้งจก ตุ๊กแก มาทำความสะอาดแล้วเอาลงหม้อต้มที่ปรุงแล้ว แต่ที่นิยมใช้ปลาไหลก็เพราะเวลามันโดนน้ำแกงที่เดือดพล่านอยู่ มันก็จะพยายามชูคอตัวเองให้พ้นน้ำ ลักษณะเหมือนเปรต
คนที่ชอบเขาบอกว่า นอกจากจะได้ทานอาหารที่สดสุดๆ แล้ว ยังเป็นเหมือนการได้รับชมภาพจำลองของนรกขุมกระทะทองแดง (ชมรอบพรีเมียร์ก่อนลงไปจริงๆ ว่างั้น)
จานที่ 9 ลูกกรอก
คนละลูกกรอกกับที่ขุนแผนผ่าลูกตัวเองออกจากท้องนางพราย (นี่ก็โหดเหมือนกัน) มาทำลูกกรอก หรือรัก-ยมนะครับ แต่เป็นชื่ออาหารชนิดหนึ่งที่ใช้กะทิปรุงรส แล้วนำลูกปลาตัวเล็กที่ยังเป็นๆ อยู่ โยนลงหม้อกะทิพร้อมกับค่อยๆเร่งไฟให้ร้อนขึ้น ใส่ผักบุ้งหั่นเป็นข้อๆ เมื่อกะทิเริ่มเดือด ปลาน้อยก็จะเข้าไปหนีร้อนในปล้องผักบุ้ง สุดท้ายก็ไปตายสนิทอยู่ในนั้น
คนที่ชอบเขาบอกว่า เหมือนได้รับประทานผักบุ้งยัดไส้รสหอมหวาน กรอบนอกนุ่มใน
จานที่ 10 ไก่กะทิ
ถ้าฝรั่งเศสมีฟัวกราต์ ไทยเราก็มีไก่กะทินี่แหละ ที่มีกรรมวิธีใกล้เคียงกัน ด้วยการนำไก่ไปฝังดินเหลือแต่ส่วนคอชูขึ้นมา คอยหยอดน้ำกะทิให้กินเป็นอาหารอย่างเดียว กระทั่งไก่อ้วนท้วนสมบูรณ์ดีแล้วค่อยขุดขึ้นมาเชือด นำมาประกอบอาหาร
คนที่ชอบเขาบอกว่า เนื้อไก่ที่ได้นั้นจะหวาน หอมมันเพราะกะทิ เทียบชั้นอาหารฝรั่งเศสได้เลยทีเดียว
ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้สำหรับเมนูอาหารพิศดาร ที่ไม่ใช่แค่ฝรั่งหรอก บางอย่างคนไทยเรายังแทบรับไม่ได้เหมือนกัน อันที่จริงถ้าเรามีอันจะกินอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องไปเสาะแสวงหาหรอกนะครับ มันเบียดเบียนสัตว์เปล่าๆ!
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : http://travel.truelife.com/,