“บุรีรัมย์” ครบเครื่อง ณ แดนอีสาน!

สารภาพเลยว่าเวลาใครชวนเที่ยวภาคอีสานจะรู้สึกไม่ค่อยดีเพราะเคยตั้งความหวังไว้ เมื่อเริ่มเดินทางแรกๆ คำบรรยายต่างๆจากข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตอันสวยหรูทำให้เราตั้งความหวังไว้มากพอเดินทางไปเห็นของจริงเคยเอ่ยปากบอกคนที่อยากตามไปเพราะเห็นจากรูปถ่ายของเราว่า อีสานหาร 2 นะเพราะมันไม่ได้สวยงามทุกที่ทุกเวลา

*****

คราวนี้คิดใหม่ไปแบบไม่หวังอะไรมาก แต่กลับมาได้มากกว่าที่หวัง

ครั้งนี้เลยเดินทางไปบุรีรัมย์เมืองที่มีปราสาทหินที่เลื่องชื่อโด่งดังไปทั่วโลก

จะไม่ให้ดังได้งัยเพลงคาราวบาวบอกว่า “เอาไมเคิลแจ๊คสันคืนไป เอาพระนารายณ์คืนมา”

เหตุการณ์โด่งดังที่ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ถูกขโมยและไปปรากฎที่อเมริกาเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว

 

ออกจากรุงเทพแต่เช้า ถึงบุรีรัมย์ เช็คอินที่นี่เลย โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ยูไนเต็ด ว่าจะตามหานักฟุตบอลของทีมดังที่นี่ด้วย

บอกเลยพี่ไม่ได้มาเล่นๆ

เดินทางมาเหนื่อยๆวันนี้เที่ยวน้อยๆ ก่อนไปดูดอกไม้สวยๆ ที่อุทยานดอกไม้ เพลาเพลิน

ทิวลิปก็มี

ดอกดาวกระจายมีหลายสีเลย

แคนตัสก็มี

งานสตอว์เบอรรี่ก็มา

เย็นแล้วหาของกินได้ ร้านบ้านไม้ชายน้ำ

เปิดด้วยออเดิร์ฟ  ไส้กรอกอีสาน แหนม หมูทอด และลาบหมูทอด

กุ้งจ่อม

ลาบปลาดุก

กลับโรงแรมนอนพักผ่อนพร้อมเผชิญศึก

 *****

เช้านี้ออกจากที่พักม่งหน้าสู่ปราสาทเขาพนมรุ้ง เจ้าของฉายา มงกุฎแห่งขุนเขา  ตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมดงรัก

ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นศิลปะขอม ตั้งอยู่บนภูเขาไฟที่ดับแล้ว พนมรุ้งเป็นภาษาเขมร แปลว่าภูเขาใหญ่

ความพิเศษของปราสาทหินแห่งนี้คือ มี 4 ครั้งใน 1 ปีที่พระอาทิตย์จะขึ้นและตกลอดผ่านช่องประตูทั้ง 16ช่องของปราสาท

แปลนของปราสาทเหมือนปราสาทขอมโดยทั่วไปมีบาราย อยู่ด้านหน้า สะพานนาคราช ทางเดินรอบ

มีลวดลายแกะสักในหินด้วย นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นสำหรับเป็นเทวสถาน ประกอบพิธีทางศาสนา

หน้าบรรณและทับหลังจะแกะสลักเรื่องราวต่างๆในศาสนาฮินดู เช่น ศิวนาฎราช พระกฤษณะ พระราม

อันนี้หน้าบรรณเป็น ศิวนาฎราช ส่วนทับหลังเป็นรูปนารายณ์บรรณทมสินธุ์

รูปปั้นหินเหลือเท่านี้

ได้มีการซ่อมแซมปราสาทอยู่เสมอๆ

***

มาต่อกันไม่ไกลกับปราสาทเมืองต่ำกัน

เป็นปราสาทหินที่อยู่ยุคใกล้เคียงกับปราสาทพนมรุ้ง

เอาจริงๆร้อนโฮก เราควรมาไม่เช้าตรูก็เย็นๆ นะ

บางทีก็นึกนะทำไม่เวลาเค้าบูรณะซ่อมแซม ไม่ทำให้เหมือนหรือใกล้เคียง ต้นปีมีโอกาสไปนครวัดเค้าก็มีการซ่อมแซมนะ แล้วก็คล้ายของเดิมด้วย

เดินเล่นถ่ายรูปเสร็จก็หิวนะสิครับ แวะกิน

ปลาเผา

ตำบักหุง ก็สัมตำมะละกองัย

ไก่ย่างขาดไม่ได้

และต้มแซบกระดูกหมู รสชาดอาหารดีที่เดียว

ปิดท้ายด้วยลาบไก่

เติมพลังเสร็จเราก็ออกเดินทางกันต่อ

แวะไปไหว้พระที่วัดเขาพระอังคาร

เรื่องราวพระเวชสันดรชาดก

ไหว้พระขอพรเสร็จก็ไปหาเรื่องเสียเงินต่อ เค้าว่าที่นี่ผ้าดี บ้านผ้าภูอัคนี เป็นผ้าหมักโคลนภูเขาไฟ

เป็นผ้าฝ้าทอเป็นผ้าขาวม้าเนี่ยแหละแต่มีความพิเศษที่พอไปหมักแล้วผ้าจะนิ่มกว่า

ผ้าซิ่นผู้หญิงก็มี

ด้านหลังมีการสาธิตวิธีทำด้วยนะ

เย็นแล้วหมดพลัง กลับเข้าเมืองไปเติมพลังที่ร้านบ้านไม้ชายน้ำต่อก่อนนะ  เมนูที่สั้งวันนี้คือ

ปลากะพง 5 รส

เมนูนี้แปลกตรงผักเครื่องเคียงมีดออกอัญชัญด้วยเดี๋ยวขโมยเก็บไปเขียนคิ้วสักหน่อย

และไข่เจียวห่อหมก

อิ่มอร่อยจบไปอีกวัน พรุ่งนี้จะได้ไปเจอนักฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด

*****

และแล้วสิ่งที่รอคอยก็มาถึง เยือนถิ่นนักฟุตบอลลีกอาชีพของไทย ทีมดังไม่แพ้ลิเวอร์พลู แมนยูเลยนะ

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเนี่ย

สัญลักษณ์เป็นรูปปราสาทเรียกว่าทีมปราสาทสายฟ้า

นี่บุกถึงห้องน้ำแต่ไม่เจอนักกีฬาสักคนเลยนะ เพราะเค้าเข้ากรุงเทพมาแข่งกันอยู่

งั้นไปดูความยิ่งใหญ่ทางฝั่งสนามแข่งรถกันบ้าง

ยิ่งใหญ่จริงๆ

มื้อปิดท้ายก่อนกลับเข้ากรุงขอโดนอาหารอีสานอีกสักมื้อ

ที่จริงไม่ได้กินยากนะแต่มาฝั่งนี้ต้องยอมถ้ากินร้านไหนแล้วชอบก็กินร้านนั้นถ้าเปลี่ยนร้านไปอาจเสียเรื่องได้

เมื่อวานลองไก่ อันนี้ลองลาบหมู

ตำถั่วแซบบบบมาก

ปิดท้ายด้วยปากเป็ดทอด

เที่ยวแบบไม่ต้องหวังหรือตั้งใจไว้มากก็สนุกไปอีกแบบนะ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : http://www.clubaroy.com/