น้ำตกกาญจนบุรี หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวในกาญจนบุรี เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบและอยากใกล้ชิดธรรมชาติ แถมยังได้ฟังเสียงน้ำไหลเย็นชื่นใจ
กาญจนบุรี จังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวย ๆ มากมาย ทำให้คนที่อยู่ห่างจากป่าเขาลำเนาไพรอยากแวะเวียนไปเที่ยวกาญจนบุรีไม่ขาดสาย หนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเด็ดพลาดไม่ได้เห็นจะเป็น “น้ำตก” เพราะที่นี่มีน้ำตกชื่อดังหลายแห่งเป็นที่ร่ำลือในความสวย แถมยังเป็นที่รู้จักดีของทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ วันนี้เราจะตะลอนไปสำรวจดูสิว่ามีน้ำตกกาญจนบุรีที่ไหนสวยงามและโดดเด่นเข้าตาบ้าง เผื่อทริปเดินทางไปกาญจนบุรีครั้งหน้าจะได้ไปตามพิกัดเหล่านี้ได้ถูก
1. น้ำตกไทรโยคใหญ่
น้ำตกไทรโยคใหญ่ หรือเรียกอีกชื่อว่าน้ำตกเขาโจน ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไทรโยค เนื่องจากเป็นน้ำตกที่ไหลตกลงจากหน้าผาลงสู่แม่น้ำแควน้อยราวกับกระโจนลงมา น้ำตกไทรโยคใหญ่จะมีน้ำตลอดปี และน้ำจะแรงมากในฤดูฝน ภายในอุทยานมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทาง และมีจุดชมวิวสะพานแขวนไทรโยคที่จะเห็นน้ำตกไทรโยคได้ชัดเจน
2. น้ำตกไทรโยคน้อย
ภาพจาก ททท.
น้ำตกไทรโยคน้อย หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าน้ำตกเขาพัง เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมาช้านาน เหตุที่ได้รับการเรียกชื่อว่าน้ำตกเขาพังเพราะน้ำตกแห่งนี้เกิดบนหน้าผาหินปูนที่พังทลายลงมาจนเกิดเป็นโขดหินปูนลดหลั่นลงมาอยู่ตรงบริเวณเชิงเขา ต้นกำเนิดของสายน้ำเป็นน้ำผุดจากภูเขาแล้วไหลมาเรื่อย ๆ ตามลำธารเล็ก ๆ จึงไหลตกลงมาที่ผาหินปูนที่มีความสูงประมาณ 15 เมตร แผ่กระจายไปตามพื้นที่เขาลาดเอียงภายใต้ร่มเงาของพรรณไม้นานาชนิด บรรยากาศโดยรวมของน้ำตกไทรโยคน้อยนั้นถือว่าน่าประทับใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากมายมหาศาลในทุก ๆ ปี
3. น้ำตกเอราวัณ
น้ำตกเอราวัณ ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ห่างจากตัวเมือง 65 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยงาม บนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ต้นน้ำเกิดจากลำห้วยม่องไล่ไหลผ่านลงจากยอดเขาและผาสูง 2,100 เมตร น้ำตกเอราวัณมีความยาว 1,500 เมตร แบ่งเป็น 7 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นมีลักษณะเป็นอ่างสามารถเล่นน้ำได้ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเอราวัณ ระยะทาง 1,060 เมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ผ่านป่าดิบเขา จุดชมวิวและป่าผลัดใบที่สวยงาม ท่านจะได้รับความเพลิดเพลินในการชื่นชมธรรมชาติและได้ความรู้จากป้ายสื่อความหมาย
4. น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ริมทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ ห่างจากอำเภอเมือง 108 กิโลเมตร น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ทั่วบริเวณร่มรื่นด้วยพรรณไม้ป่านานาชนิด น้ำตกไหลมาจากต้นน้ำของเทือกเขากะลาซึ่งเป็นป่าดิบเขาแล้งทางทิศตะวันออกของอุทยาน และไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ น้ำตกแบ่งออกเป็น 7 ชั้น มีชื่อเรียกต่าง ๆ กันไปแต่ละชั้น แต่ละชั้นมีความสูงและความสวยงามต่างกันไป ทางอุทยานได้ทำเส้นทางเดินสำหรับขึ้นไปชมน้ำตกแต่ละชั้นและยังเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี
5. น้ำตกกะเต็งเจ็ง
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีชั้นน้ำตกถึง 23 ชั้น แต่ละชั้นมีความงามแตกต่างกันออกไป เหมาะกับการทัศนศึกษาดูสภาพป่าชนิดต่าง ๆ เช่น ป่ากล้วย ป่าไผ่ ป่าดิบ ป่าเบญจพรรณ และมีต้นไม้ขนาดยักษ์ขนาด 13 คนโอบ โดยเฉพาะชั้นที่ 16 นั้นมีขนาดใหญ่และสวยงามมาก การไปชมน้ำตกกะเต็งเจ็ง จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงน้ำตกชั้นแรก นักท่องเที่ยวจะต้องปีนป่ายผ่านสายน้ำขึ้นไปตามชั้นต่าง ๆ จนถึงชั้นบนสุด ด้านบนของน้ำตกจะมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลมได้
เมื่อขึ้นไปถึงแล้วสามารถเลือกเดินทางกลับโดยไม่ใช้ทางเดิม แต่เปลี่ยนเป็นเส้นทางเดินป่า ที่ยังมีสภาพป่าดิบอันสมบูรณ์ ระหว่างทางจะผ่านดงเฟิร์นที่กว้างใหญ่ตระการตา ผ่านป่าระกำ ลิ้นจี่ป่าและมะไฟป่า ตลอดทางเดินจะได้ยินเสียงน้ำตกกระทบโขดหินดังก้องอยู่ในป่าตลอดเวลา น้ำตกนี้ไม่เหมาะสำหรับการเดินทางในฤดูฝน และควรติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางของอุทยาน ในเขตอุทยานมีบริการบ้านพักและสามารถกางเต็นท์พักแรมได้
6. น้ำตกเกริงกระเวีย
ภาพจาก ททท.
น้ำตกเกริงกระเวีย ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นน้ำตกขนาดเล็ก เกิดจากลำห้วยเกริงกระเวียไหลผ่านลดหลั่นกันมาตามหินปูนจนเกิดเป็นน้ำตกขึ้นภายใต้การโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ มีต้นไม้ปกคลุมไปทั่วบริเวณน้ำตก นอกจากนี้ยังมีน้ำตกขนาดเล็ก ๆ กระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่รอบ ๆ ตัวน้ำตกเกริงกระเวีย เป็นน้ำตกที่เหมาะแก่การเล่นน้ำและแวะพักผ่อนหย่อนใจระหว่างเดินทางเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการเดินทางไปยังน้ำตกเกริงกระเวียก็มีความสะดวกสบายเนื่องจากติดถนนสายหลักบนเส้นทางสู่อำเภอสังขละบุรี
7. น้ำตกผาสวรรค์
น้ำตกผาสวรรค์ ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่สวยงามลดหลั่นกันถึง 7 ชั้น และยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติอยู่มาก โดยเฉพาะชั้นที่สูงที่สุดซึ่งมีความสูงประมาณ 80 เมตร การเดินทางเข้าไปสู่ตัวน้ำตกนั้นใช้เวลาประมาณ 40 นาที ในการเดินเท้าเข้าไป เนื่องจากที่ตั้งของน้ำตกผาสวรรค์อยู่ในป่าลึก ซึ่งห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 155 กิโลเมตร บริเวณกิโลเมตรที่ 110 ของทางหลวงหมายเลข 323 กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ ผ่านบ้านสหกรณ์นิคมเข้าไปประมาณ 15 กิโลเมตร และเลี้ยวขวาบริเวณทางแยกถนนดินลูกรังอีก 13 กิโลเมตร หรือใช้เส้นทางเชื่อมต่อน้ำตกผาตาดแล้วเดินเท้าเข้าไปต่อ อีกเส้นทางหนึ่งคือใช้เส้นทางจากน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นผ่านเหมืองเนินสวรรค์ หมู่บ้านสะพานลาว ระยะทางประมาณ 42 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายที่ทางแยกบริเวณโครงการปลูกป่าอีก 13 กิโลเมตร จะถึงที่จอดรถ และเดินเท้าเข้าไปยังตัวน้ำตกอีก 40 นาทีเช่นกัน
8. น้ำตกทุ่งนางครวญ
น้ำตกทุ่งนางครวญ เป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านทุ่งนางครวญ ตำบลชะแล สภาพน้ำตกยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่อย่างสมบูรณ์ มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมทั่วบริเวณตัวน้ำตกเป็นหินปูน มีทั้งสิ้น 7 ชั้น แต่ละชั้นจะมีลักษณะเป็นหน้าผาขนาดสูงใหญ่ บางชั้นสูงกว่า 50 เมตร และมีน้ำไหลตลอดทั้งปี
น้ำตกทุ่งนางครวญอยู่ห่างจากจังหวัดกาญจนบุรีไปประมาณ 190 กิโลเมตร การเดินทางให้ใช้เส้นทางหมายเลข 323 ไปตามถนนสายทองผาภูมิ-สังขละบุรี เลี้ยวขวาบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 26 (โดยสังเกตได้จากพระพุทธรูปสีขาวที่ประดิษฐานอยู่ที่บริเวณทางแยก) เดินทางต่อไปอีก 15 กิโลเมตร เมื่อถึงหมู่บ้านทุ่งนางครวญ จะมีทางแยกเข้าน้ำตกต่อไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร สภาพถนนเป็นถนนดิน ควรเดินทางโดยรถขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือรถกระบะ จากนั้นต้องเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 30 นาที จึงจะถึงบริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 หากนักท่องเที่ยวต้องการความสะดวก สามารถติดต่อกับชาวบ้านเพื่อว่าจ้างหาผู้นำทางไปยังน้ำตกได้
9. น้ำตกสไลเดอร์
น้ำตกสไลเดอร์ อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ เป็นสไลเดอร์ธรรมชาติที่มีความสูงประมาณ 20 เมตร สามารถลื่นไหลลงมาตามกระแสน้ำ ลงสู่แอ่งน้ำที่รองรับอยู่เบื้องล่าง โดยไม่มีอันตรายซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 2.7 กิโลเมตร โดยมีเส้นทางไปถึงน้ำตก (สามารถท่องเที่ยวได้เฉพาะฤดูฝน)
10. น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
น้ำตกจ๊อกกระดิ่น อยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เป็นน้ำตกชั้นเดียว มีความสูงประมาณ 50 เมตร ไหลจากหน้าผาลงสู่แอ่งน้ำกว้าง บริเวณน้ำตกสามารถเล่นน้ำได้ โดยจากต้นน้ำแห่งนี้ได้ไหลผ่านหมู่บ้านอีปู่ถึงน้ำตกจ๊อกกระดิ่น มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ในยามหน้าฝนสายน้ำจะไหลพรั่งพรู สวยงามมาก ยามหน้าแล้งสายน้ำก็ยังคงไหลอยู่ตลอดเวลา เพราะแหล่งต้นน้ำเกิดจากเขาอีปู่ในของเหมืองทังสเตน เป็นน้ำผุดขึ้นจากเหมืองแห่งนี้ ซึ่งสมัยก่อนแหล่งน้ำแห่งนี้เป็นพุน้ำร้อน เมื่อมีการทำเหมืองแร่เกิดขึ้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไป ปัจจุบันน้ำไม่ร้อนแล้ว
11. น้ำตกผาเขียว
น้ำตกผาเขียว อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู เป็นน้ำตกขนาดกลาง สูงประมาณ 20 กว่าเมตร ไม่ยิ่งใหญ่อลังการ แต่ดูสูงเพราะอยู่ในป่าสวย มีแอ่งน้ำขนาดกลาง กว้างประมาณ 8-10 เมตร ไม่ลึกมาก สามารถลงเล่นน้ำได้ สามารถเที่ยวชมได้ตลอดปี แต่ช่วงฤดูฝนน้ำตกจะสวยเป็นพิเศษ ที่นี่เป็นน้ำตกที่ชาวบ้านเล่าขานถึงความสวยงามมานานแล้ว มีต้นน้ำมาจากป่าเขาพระฤๅษีบ่อแร่ ซึ่งยังคงเป็นป่าที่สมบูรณ์
12. น้ำตกคลีตี้
น้ำตกคลีตี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร อำเภอสังขละบุรี มีต้นน้ำอยู่บนยอดเขาดีกะใกล้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร การเดินทางเข้าไปยังน้ำตกคลีตี้บนค่อนข้างจะลำบาก ต้องใช้เวลาเดินเท้าไปประมาณ 2 วันจากบ้านกะเหรี่ยงคลีตี้ และในการเดินทางแต่ละครั้งจะต้องมีลูกหาบและคนนำทาง ส่วนน้ำตกคลีตี้ล่างตั้งอยู่เหนือทะเลสาบแควใหญ่บริเวณลำเขางู ใช้เวลาเดินทางโดยเรือจากท่าเรือกระดานหรือท่าเรือหม่องกระแทะไปประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของน้ำตกในจังหวัดกาญจนบุรีเท่านั้น เพราะยังมีน้ำตกสวย ๆ และสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามซุกซ่อนอยู่ภายใต้ความร่มรื่นของธรรมชาติอีกเพียบ เอาเป็นว่าหากมีโอกาสก็หาเวลาไปเที่ยวกาญนะจ๊ะ เอ้ย ! กาญจนบุรีกันดูนะ
ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกาญจนบุรี เลขที่ 14 ถนนแสงชูโต ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี 71000 โทรศัพท์ 0 3451 1200, 0 3451 2500 หรือ เฟซบุ๊ก เมืองกาญจน์ แดนสวรรค์ตะวันตก และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2562 0760 วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น.